หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur)

วันที่เกิด 25 ตุลาคม ค.ศ. 1811
Dole, Franche-Comté  ฝรั่งเศส
วันที่เสียชีวิต         28 กันยายน ค.ศ. 1895 (72 ปี)
Marnes-la-Coquette, Hauts-de-Seine
สัญชาติ  ฝรั่งเศส
เชื้อชาติ ฝรั่งเศส ชาวฝรั่งเศส
สาขา      เคมีและ จุลชีววิทยา
สถาบันที่ทำงาน  Dijon Lycée
University of Strasbourg
Lille University of Science and Technology
École Normale Supérieure
สถาบันการศึกษาที่เรียน    École Normale Supérieure
ลูกศิษย์ในระดับปริญญาเอก             Charles Friedel[1]
งานที่เป็นที่รู้จัก   การฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์
วัคซีน
หลุยส์ ปาสเตอร์ (/ˈli pæˈstɜr/ภาษาฝรั่งเศส: [lwi pastœʁ] ; 27 ธันวาคมค.ศ. 1822 - 28 กันยายน ค.ศ. 1895) นักเคมีและนักจุลชีววิทยา เกิดที่เมืองโดล ประเทศฝรั่งเศส ได้รับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเบซากองและมหาวิทยาลัยปารีสต่อมาได้ดำรงตำแหน่งอาจารย์ในสถาบันการศึกษาที่สตราบวร์ก ลิลล์ และมหาวิทยาลัยปารีส และได้รับการแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์สาขาเคมีที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ในปี พ.ศ. 2410
ปาสเตอร์เป็นผู้แถลงว่าการเน่าและการหมักเกิดจากเชื้อโรคหรือจุลินทรีย์ปาสเตอร์ได้ค้นพบปรากฏการณ์นี้ในระหว่างการศึกษาว่าเหตุใดเหล้าองุ่นจึงเสียรสขณะบ่ม แต่เมื่อนำเหล้าองุ่นไปอุ่นให้ร้อนแล้วจึงป้องกันไม่เหล้าองุ่นกลายเป็นน้ำส้มสายชูได้ ซึ่งการกระทำลักษณะนี้ต่อมาได้พัฒนาเป็นการฆ่าเชื้อวิธีปาสเตอร์(Pasteurization) การค้นพบนี้ทำให้สาขาวิชาจุลชีววิทยาโดดเด่นก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
การทดลองที่มีชื่อเสียงของปาสเตอร์เมื่อปี พ.ศ. 2424 ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแกะและวัวที่ได้รับการฉีด วัคซีนที่ทำจากเชื้อจุลินทรีย์บาซิลไล ซึ่งเป็นเป็นสมมติฐานของโรคแอนแทรคที่ถูกทำให้อ่อนจางลงของเขา สามารถต่อสู้กับโรคระบาดที่มีอันตรายของสัตว์คือโรคแอนแทรคดังกล่าวได้โดยไม่ติดโรค ในปี พ.ศ. 2431 สถาบันปาสเตอร์ได้รับการจัดตั้งขึ้นในกรุงปารีสเพื่อต่อสู้กับโรคพิษสุนัขบ้าซึ่งปาสเตอร์ได้ทำงานประจำในสถาบันนี้จนถึงแก่กรรม
ปัจจุบัน สถาบันปาสเตอร์ยังคงเป็นสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกที่ยังคงทำงานวิจัยงานด้านจุลชีววิทยาอยู่ รวมทั้งการค้นพบเชื้อไวรัสเอชไอวี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์


ประวัติ
บิดาของปาสเตอร์เป็นช่างฟอกหนังชื่อ ชอง โจเซฟ ปาสเตอร์ เคยเป็นทหารผ่านศึกสมัยจักรพรรดินโปเลียน ฐานะของครอบครัวไม่ดีนัก เขาได้รับการศึกษาครั้งแรกที่จังหวัดอาร์บัวส์ มีความถนัดทางด้านวิทยาศาสตร์นอกจากนี้เขายังมีความสามารถพิเศษในการวาดรูปอีกด้วย [2]
ครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองอาร์บัวส์ ต่อมาเขาก็ได้ไปเรียนที่กรุงปารีส แต่ก็ป่วยด้วยโรคคิดถึงบ้าน ก่อนจะกลับไปเรียนที่ปารีสอีกครั้งในภายหลัง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1854 เขาได้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์วิชาเคมีและคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยลิลล์







อ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น